วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การ ให้ อาหาร ปลา มังกร

การ ให้ อาหาร ปลามังกร
- การให้อาหาร แนะนำที่เป็นหลักเลยคือกุ้งชิ้น(กุ้งขาวปกติ) หั่นให้พร้อมเปลือกเลย ในปลาที่ไซด์ไม่เกิน 12 นิ้วให้ 2 ครั้งต่อวัน
ใหญ่กว่านั้นให้ 1 ครั้งต่อวันก็พอครับ
อาจจะให้จิ้งหรีด หรือ หนอนนก หนอนยักษ์สลับกันบ้างก็ได้ แต่หลักๆคือกุ้งครับ ดีที่สุดแล้ว

1.ไรน้ำนางฟ้ามีโปรตีนสูงมากถึง 65% ทำให้ปลาที่กินไรน้ำนางฟ้า โตเร็ว เพราะได้โปรตีนช่วยในการเจริญเติบโต

2.คารฺ์โบไฮเดรตสูงกว่าอาหารประเภทอื่นๆ ทำให้ปลาได้รับพลังงานสูง การเคลื่อนไหวก็กระฉับกระเฉง

3.ไขมันต่ำทำให้ปลาไม่อ้วน จึงทำให้ปลาสุขภาพดี ไม้ขี้โรค และที่สำคัญไรน้ำนางฟ้านั้นอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนมากกว่าอาหารชนิด อื่นๆด้วยซึ่งเบต้าแคโรทีนเป็นสารที่สร้างสีสันให้ปลาดูสวยงาม เราสามารถ พบจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยขอนแก่นว่า เมื่อปลาหมอสีที่เลี้ยงด้วยปลา หมอสีเพียง 2 วันเท่านั้น ทำให้ปลามีสีแดงสดอย่างชัดเจน และเป็นสารต้าน อนุมูลอิสระ ทำให้ปลาอายุยืนอีกด้วย

ไรน้ำนางฟ้านั้นเจริญเติบโตเร็วมาก สามารถเก็บผลผลิตได้ใน5-7วัน
ขยายพันธุ้ได้เร็ว เพราะไรน้ำนางฟ้าตัวเมีย1 ตัววางไข่ได้ราว 6,000-12,000ฟอง

 สามารถเลือกเก็บตัวไรไปใช้ประโยชน์ได้หลายขนาดตามขนาดของปลาที่เลี้ยง เช่น - ลูกไร อายุ 1-3 วันใช้เลี้ยงลูกปลาได้ - ไร อายุ 4-5 วัน มีขนาด 1 ซม. ใช้เลี้ยงปลาขนาดเล็ก - ไร อายุ 7 วัน มีขนาด 2 ซม. และอายุ 15 วัน ขนาด 3-4 ซม.ใช้เลี้ยงปลาขนาดใหญ่ได้

ลดต้นทุนค่าอาหาร เพราะถ้าต้องซื้อจากฟาร์มเพาะเลี้ยง ซึ่งราคาตัวละ 5-10 สตางค์แต่ถ้าสามารถเพาะเลี้ยง ได้เองจะสามารถลดต้นทุนได้มาก เพราะมีต้นทุนเพียงค่าน้ำค่าปุ๋ย และค่าไฟฟ้าเพียงเล็กน้อย

วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2558

หลอดไฟสำหรับปลามังกร

หลอดไฟสำหรับปลามังกร
การเลือกใช้หลอดไฟหลอดไฟสำหรับปลามังกร
การเลือกใช้หลอดไฟก็ขึ้นอยู่กับขนาดของตู้และชนิดของปลา ขอเริ่มที่ตู้ก่อนนะครับ สำหรับตู้ 60” ผมแนะนำให้ติดไฟ 2 ดวงโดยขนาดปกติจะเป็น 40 วัตต์ และควรจัดวางให้หลอดไฟแต่ละหลอดห่างกันพอดีๆ เพื่อให้แสงไฟกระจายได้ทั่วตู้ ส่วนตู้ 72” และ 84” ก็ใช้ซัก 4 ดวง ส่วนที่ใหญ่กว่านี้ก็เพิ่มเป็น 6 ดวง 8 ดวง อันนี้ก็แล้วแต่ความต้องการ หลอดไฟที่ใช้ในตู้ปลามีหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นสำหรับปลาสวยงาม สำหรับตู้ทะเล สำหรับตู้ไม้น้ำ หลอดแดง หลอดขาว หลอดสี และก็มีหลายยี่ห้ออย่างเช่น Alico, Sylvania Gro Lux, Sylvania Aqua Star, Philip Aqurelle, Toshiba, Burgamont, CE, Kowa, Silver Light ซึ่งต่างยี่ห้อก็มีจุดเด่นแตกต่างกัน หากต้องการความสว่างๆ ก็ต้องใช้ของ Alico และ Silver Light แต่หากว่าอยากได้สีนวลตา แสงที่ออกมาอมชมพูเล็กน้อยก็ใช้ Sylvania ส่วนใครที่ชอบสีหลอดที่ออกแดงๆ หน่อยผมขอแนะนำ Toshiba และ Kowa RB37 หากมีคำถามๆ กันโดยรวมว่า “หลอดไฟปลาชนิดไหนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับปลามังกร” ผมจะตอบว่าเท่าที่ลองได้ใช้ทั้งหมดแล้ว ผมชอบ Sylvaina GroLux มากที่สุด สีออกมาดูเป็นธรรมชาติ ไม่หลอกตา ไม่สว่างจ้าและไม่แดงจัดจนเกินไป

ถ้าเป็นปลาสายพันธุ์อื่นๆ ปัญหาเรื่องหลอดไฟคงเป็นเรื่องเล็กใช้สีอะไรก็ได้ให้ดูแล้วสบายใจเราก็พอ ทองอินโด ทองมาเลย์ มังกรเขียว ทองอ่อน มังกรเงิน ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นปลาแดงล่ะครับ ? เรื่องการใช้หลอดไฟมีผลกับสีปลา การจะเลี้ยงปลาแดงให้สวยๆ “แสงแดด” เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สีปลามีความแดงโดดเด่นมากขึ้น แต่ทว่ามีนักเลี้ยงเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่จะตั้งตู้เลี้ยงปลาให้โดนแดดโดยตรง... อากาศร้อน น้ำร้อน ตะไคร่จับเกาะเต็มตู้ ควบคุมยาก แม้ปลาจะมีสันดีขึ้นแต่ว่าต้องเจอกับปัญหาเหล่านี้คงปวดหัวไม่น้อยเช่นกัน ในวันนี้มีวิธีแก้ไขที่ดีขึ้นแล้วนั่นก็คือการใช้ “หลอดแดด” หรือหลอดขาวที่มีความสว่าง 12,000 k ขึ้นไป (มียี่ห้อ Kowa, Toshiba Oceanic 20,000k) โดยหลอดที่ว่านี้จะให้แสงสว่างที่คล้ายแสงแดด เมื่อใช้ได้ระยะหนึ่งจะมีผลทำให้สีปลาแดงดีขึ้น อย่างไรก็ตามแสงจากหลอดไฟเหล่านี้มักจะมีสีสันไม่สวยงามและไม่เข้ากับปลาแดง เช่นว่า ขาวโพลน เหลืองจืด สีอมฟ้า ดังนั้นเพื่อปรับสภาพแสงให้ลงตัวจึงควรใช้ควบคู่กับหลอดไฟปลาปกติ

หลอดไฟสำหรับปลามังกร
การใช้ “หลอดแดด” แม้จะทำให้สีปลาแดงดีขึ้นจริงแต่ก็มีข้อเสียหากใช้อย่างไม่ถูกวิธี นั่นก็คืออาจทำให้ปลาหลบแสงจนตามีปัญหา ตาตก ตาเอียง และเมื่อตาเอียงก็ผลทำให้ปลาว่ายน้ำเอียงไม่สวยงาม อีกทั้งตาฝ้า ตาขุ่นมัวก็มีสาเหตุมาจากหลอดนี้เช่นกัน นอกจากนี้ยังอาจทำให้ปลามีนิสัยจอดบ่อย นิ่งอยู่ที่พื้นตู้นาน ไม่ว่าย ข้อเสียข้อสุดท้ายก็คือในกรณีที่ระบบกรองบำบัดน้ำไม่ดีเพียงพอจะทำให้น้ำขุ่นเร็ว ขุ่นนาน และแก้ไขให้หายยาก เพราะแสงแดดทำให้แบคทีเรียในตู้เพิ่มปริมาณมากขึ้นทำให้ระบบกรองทำงานไม่ทัน ต้องคอยเปลี่ยนถ่ายน้ำตลอดจึงจะกลับมาเหมือนเดิม (หรือต้องใช้หลอด UV เข้าช่วย) ปัญหาที่ว่านี้เกิดจากการใช้หลอดนานเกินไปอย่างเช่นเปิดทั้งวัน ทั้งคืน ทั้งสัปดาห์ หรือเปิดทุกวันๆ ละหลายๆ ชั่วโมงเพราะต้องการให้สีปลาแดงเร็ว ความคิดนี้ผิดนะครับ... อะไรที่เป็นการเร่งเร้าไม่ดีทั้งนั้น วิธีที่ถูกต้องผมแนะนำให้เปิดเพียงสัปดาห์ละ 2-3 วันและเปิดเฉพาะช่วงกลางคืนที่เรานอนและไม่ดูปลาก็พอ (วันละประมาณ 10-12 ชม.) และควรเปิดเว้นระยะห่างด้วยไม่ควรเปิดติดกันทุกวัน

หลอดไฟสำหรับปลามังกร
หลอดไฟใต้น้ำ ถือเป็นอุปกรณ์เสริมซึ่งเป็นหลอดไฟที่สามารถติดอยู่ใต้น้ำได้ โดยใช้งานเพื่อล่นระยะห่างระหว่างแสงไฟจากฝาตู้มาถึงตัวปลามาเป็นกระทบที่ตัวปลาโดยตรง ทำให้ในตู้สว่างมากขึ้นโดยเฉพาะบริเวณผิวน้ำและเพราะเจ้ามังกรเป็นปลาว่ายผิวน้ำจึงทำให้เห็นตัวปลาได้ชัดขึ้น แสงสะท้อนกับแผ่นเกล็ดให้ดูเงางาม สว่างสุกใส จึงทำให้ตัวปลาสง่างามมากขึ้น นอกจากนี้หลอดไฟใต้น้ำยังช่วยในการถ่ายภาพให้ชัดเจนมากขึ้นอีกด้วย ผู้เลี้ยงปลาหลายท่านยังไม่กล้าใช้หลอดไฟใต้น้ำเพราะกลัวว่าจะเป็นอันตรายกับปลา แต่จริงๆ แล้วเรื่องนี้ไม่น่าห่วงเพราะว่าอุปกรณ์ชนิดนี้ถูกออกแบบให้มีระบบป้องกันภัยโดยที่ตัวหลอดมีกรอบพลาสติกใสคลุมหลอดไฟอยู่ บัลลาร์ดและสตาร์ทเตอร์แยกต่างหากและมีระบบตัดไฟในตัว เกลียวที่เหนียวแน่น มีแผ่นยางกันน้ำเข้า ฉะนั้นจึงสบายใจในการใช้งานได้ไม่ต้องกลัวกับปัญหาเรื่องไฟจะลัดวงจรไปช๊อตปลา หลอดไฟใต้น้ำมีให้เลือกหลายขนาดนะครับตั้งแต่ 10 วัตต์ ไปจนถึง 40 วัตต์ และในตลาดปลาบ้านเราก็มีอยู่ 3 ยี่ห้อคือ Ottoto, Ocean Free และ Atman ราคาค่อนข้างสูงนิดนึงคืออยู่ประมาณ 1,000 บาท


คัดลอกบทความจาก
http://www.aro4u.com/forums/index.php?showtopic=5057

วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ราคาของปลามังกรแดง และ มังกรสีอื่นๆ

ราคาของปลามังกรแดง และ มังกรสีอื่นๆ 
เช่น HB หรือ RTG มีตั้งแต่ 8500 - 12000 บาท ตัวใหญ่หน่อยก็ราคาสูงขึ้นไปอีก สำหรับแดงก็มีตั้งแต่ 25000 - 35000 บาท ถ้าใหญ่หน่อยแดงมาก ๆ หรือเฉลยแล้วก็ราคาสูงขึ้นไปอีกเยอะ สำหรับทองมาเลย์นี่ ราคากว้างมากครับ ไม่สามารถบอกได้จริง ๆ  30000 - แสนกว่าก็มี

1.ทองมาเลย์ ราคาตั้งแต่ 25000-6-70000 บาท ขนาด 6-8 นิ้ว

2.ทองอินโด RTG ราคาตั้งแต่ 6000-17000 ขนาด 6-12 นิ้ว

3.ทอง HB ราคาตั้งแต่ 8000-20000 ขนาด 6-12 นิ้ว

4.ซุปเปอร์เรด ราคา 17000-40000 ขนาด 6-15 นิ้ว

5.เรดบี มักกรแดง ราคาตั้งแต่ 3500-6000 บาทขนาด 6-8 นิ้ว

6.มังกรเขียวมีเซอร์ ราคา 2000-3000

7.ทองอ่อนมีเซอร์ 1500-2500

8.เขียวไม่เซอร์ 1400

9.ทองอ่อนไม่เซอร์ 1300

10.ทองออสเตเลีย 800-900 ขนาด 3-5 นิ้ว

11.มังกรเงิน 250-800 ขนาด 2-10 นิ้ว

ไฮแบ็ค (Hight Back) ปลามังกรลูกผสม

ไฮแบ็ค (Hight Back) ปลามังกรลูกผสม
ไฮแบ็ค (Hight Back) เป็นปลาลูกผสมระหว่างทองอินโดนีเซียกับทองมาเลย์ ทำให้ลูกปลาที่เกิดออกมามีส่วสนเด่นของทั้งสองสายพันธุ์ คือ มีเกล็ดที่แวววาวกว่าทองอินโดทั่วไปและสีทองของเกล็ดจะเปิดถึงแถวที่ 5 มากกว่าทองอินโดปกติ

อะโรวาน่าปลามังกรทองอินโดนีเซีย

อะโรวาน่าทองอินโดนีเซีย (Red Tail Golden Arowana) เป็นปลาที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีราคาที่ไม่สูงมาก หากเทียบกับสายพันธุ์อื่นที่พบในเอเชียด้วยกัน อีกทั้งมีความสวยงามมีสีทองเข้ม ครีบอก กระโดงต่าง ๆ และหาง มีสีแดงสด ด้วยเหตุนี้ จึงมีชื่อเรียก ว่า Red Tail Golden (นิยมเรียกสั้น ๆ ว่า RTG) ครีบหลังและหางส่วนบนจะมีสีแดงคล้ำปนดำ บนหลังจะมีเกล็ดสีดำ เกล็ดสีทองจะมีขึ้นมาถึงเกล็ดแถวที่ 4 และอาจจะมีขึ้นประปรายบ้างบนแถวที่ 5 เรียกว่า ไฮแบ็ค (Hight Back) ปัจจุบันมีการผสมข้ามสายพันธุ์ (Cross Breed) กับปลาอะโรวาน่าทองมาเลย์จนได้สายพันธุ์ปลาพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า ไฮแบ็ค มากขึ้น โดยเกล็ดเงางามขึ้น และเกล็ดเปิดถึงแถวที่ 5 ได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้แล้วยังมีสายพันธุ์ที่สีอ่อนกว่า เมื่อเล็กมีลักษณะคล้ายปลาตะพัดหรือปลาอะโรวาน่าเขียวมาก โตขึ้นครีบมีสีใสและเกล็ดเป็นสีเงินปนเหลืองอ่อน ๆ เรียกว่า "ทองอ่อน" และตัวใดที่ครีบมีสีเหลืองเข้มขึ้นมาหน่อย ก็จะถูกเรียกว่า "ทองหางเหลือง" (Yellow Tail) เป็นต้น

เป็นปลาที่พบในประเทศอินโดนีเชีย บริเวณบอร์เนียวเหนือ และเกาะสุมาตรา และส่วนของทางหางเหลืองก็อยู่ในแหล่งน้ำที่ต่างจากทองอินโดนีเซีย

อนึ่ง ในปี ค.ศ. 1994 มีนักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ของอะโรวาน่าทองอินโดนีเซียแยกออกมาต่างหากว่า Scleropages aureu และในส่วนของทองหางเหลืองก็ได้มีการตั้งชื่อวิทยาศาสตร์แยกออกมาอีกว่า Scleropages macrocephalus ในปี ค.ศ. 2003

บทความจาก http://th.wikipedia.org